Misunderstanding between teachers and coaches

ความเข้าใจผิดระหว่างคำว่าครู กับ โค้ช

ดร.ธนเสฏฐ  สุภากาศ

          ช่วงหลายปีมานี้เราจะได้ยินคำว่า ครู กับ Coach ค่อนข้างบ่อย นักการศึกษาหลายๆ ท่านพยายามกล่าวถึงการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของครูเกี่ยวกับการจัดการเรียนรู้ให้กับผู้เรียน โดยกล่าวเป็นนัยว่า "เปลี่ยน ครู เป็น Coach" 
          การเปลี่ยนครูเป็นCoach นั้น ในส่วนตัวผมไม่เห็นด้วย เนื่องจากคำว่า "ครู และ Coach" นั้นมีความหมายต่างกัน ดังนี้
          Coach เป็นศัพท์ทางการกีฬา  หมายถึง ผู้ฝึกนักกีฬา ซึ่งเข้าใจว่าเป็นไปในลักษณะ Private instructor หากเราจะกล่าวถึงวิธีการของ Coach เราก็จะได้ยินคำว่า Coaching ควบคู่ตามมา คำว่า Coaching มีความหมายคล้ายๆ Tutoring และ Training ซึ่งต่างจากความหมายของคำว่า "ครู"
          ส่วนคำว่า "ครู" อาจกล่าวได้ในความหมายว่า เป็นผู้ทำให้เกิดการเรียนรู้  ดังนั้นคำว่าครู จึงมีความหมายกว้างและยิ่งใหญ่กว่า Coach เนื่องจากครูจะต้องจัดมวลประสบการณ์ให้กับผู้เรียนได้เรียนรู้ ให้ผู้เรียนได้เรียนรู้มากกว่าทักษะที่ควรทำได้เพียงอย่างเดียว ครูจะต้องสร้างให้ผู้เรียนบรรลุให้ถึงพร้อม ทั้งด้านองค์ความรู้ มีพัฒนาการทางด้านอารมณ์และจิตใจ หมายรวมถึงทักษะที่ปฏิบัติได้ปฏิบัติเป็นสมวัย
         อย่างไรก็ตามการจัดการเรียนรู้ที่ผ่านมา อาจเป็นไปได้ว่า การจัดการเรียนรู้ หรือการจัดประสบการณ์ให้กับผู้เรียนของครูนั้นไม่บรรลุตามผลการจัดการเรียนรู้ หรือตัวชี้วัดที่กำหนด ไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนด นักการศึกษาจึงพยายามพลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงด้านพฤติกรรมการจัดการเรียนรู้ของครู โดยใช้คำว่า Coach มาแทนที่คำว่า "ครู" (ซึ่งอาจกล่าวได้ว่าเป็นวาทกรรมเพื่อการเปลี่ยนแปลงอย่างหนึ่งเกี่ยวกับการจัดการเรียนรู้) การแก้ไขด้วยวาทกรรมดังกล่าวในทัศนะของผู้ขียนไม่เห็นด้วยนัก พฤติกรรมการจัดการเรียนรู้ของครูไม่ใช่การเปลี่ยนครู เป็น Coach แต่หากอยู่ที่การส่งเสริมครูให้เป็น "ครู" เป็นครูโดยจิตวิญญาญ โดยครูยุคใหม่ควรเข้าถึงความต้องการของผู้เรียนในยุคสมัยของเขา จัดประสบการณ์การเรียนรู้ให้เหมาะสมกับช่องทางการเรียนรู้ของผู้เรียนใน Generations ของเขา ซึ่งการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ให้กับผู้เรียนอย่างเหมาะสมกับยุคสมัยนี้ ครูจะทำหน้าที่ครูอย่างหนักมากกว่าการเป็น Coach ที่เรากล่าวถึงในปัจจุบัน การจัดประสบการณ์เรียนรู้ให้กับผู้เรียน ไม่ใช่เรื่องของการ Tutoring และ Training ที่มีลักษณะเป็น  Private instructor 
         เป็นสิ่งที่ถูกต้องที่ครูจะต้องรู้จักเด็กเป็นรายบุคคล เมื่อรู้จักเด็กเป็นรายบุคคลแล้วจะทำอย่างไรให้เขาเป็นบุคคลในสังคมได้ อยู่ร่วมกับสังคมได้ นั่นคือโจทย์ที่เราในฐานะครูควรคำนึงถึงเช่นกัน
         Coach เป็นศัพท์ทางการกีฬา เป็นผู้ฝึกนักกีฬาให้มีทักษะด้านใดด้านหนึ่งอย่างชำนาญในทักษะที่ Coach ต้องการให้เกิดกับนักกีฬาที่ได้รับการฝึก เน้นการแก้ไขให้กับผู้เข้ารับการ Train ได้บรรลุข้อบกพร่อง แต่สำหรับครูแล้วไม่หยุดเพียงแค่นั้น ครูจะเฝ้าดูสังเกตการณ์ถึงพัฒนาการผู้เรียนให้ถึงพร้อมทั้ง องค์ความรู้ (ปัญญา) มีความเจริญงอกงามทั้งด้านอารมณ์และจิตใจ (คุณธรรม) และรวมถึง ทักษะที่เขาควรปฏิบัติได้สมวัย นอกจากนี้ครูที่มีจิตวิญญาณโดยแท้จริง จะเฝ้าคอยดูแลลูกศิษย์จนกว่าเขาจะสามารถยืนด้วยลำแข้งของตนเองได้และเป็นคนดีของสังคม


"อย่าผลัก ครูไปเป็น Coach เลย ขอให้ครูได้ทำหน้าที่ ครู โดยจิตวิญญาณ เถอะครับ"


     
  

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

เสียงก้องกังวาน ในห้วงฤทัย

"ปาฏิหาริย์ไม่มีจริง"

เส้นทางสายผ้าเหลือง