ฟ้าสีบูล ที่มีเมฆบัง

มองฟ้าสีฟ้า หรือสีบลู หรือฟ้านั้นถูกบดบังด้วยปุยเมฆา.. หากเมฆขาวดั่งปุยนุ่นคงไม่ขุ่นมัว และไม่น่ากลัวดังเมฆสีดำที่พร้อมจะปะทุด้วยพายุฝนและเสียงฟ้าฟาดคำราม...

ความหลังเมื่อครั้งเรียนอยู่มหาวิทยาลัย.. มันคือ ความทรงจำที่งดงามเมื่อเริ่มต้น และปิดฉากด้วยความหวนระทึงหา...แต่เรื่องยังดำเนินไม่ถึงบทแห่งกาลอวสาน มันคือ ความรักแบบเด็กๆ ที่ใสซื่อ หรือมากด้วยแรงแห่งศรัทธาและความเชื่อมั่นของดวงฤทัย...

เรื่องราวกล่าวถึง..ใครคนหนึ่งที่เดินเข้ามาในขณะที่เรารวมกลุ่มอยู่ในองค์การนิสิต ร่วมทำกิจกรรมจิตอาสา และเราคือกลุ่มผู้นำองค์การนิสิต ที่พยายามสร้างสรรค์งานเพื่อประโยชน์โดยรวมของเหล่านิสิต สังคม และประชาชน.

ความเห็นใจในระหว่างปฏิบัติการงานสังคม เริ่มก่อขึ้น มีการใส่ใจระหว่างกัน ด้วยความเชื่อ “..คนนี้แหละ..” ที่เราจะต้อง Take care

คู่รักระหว่างนิสิตเริ่มเกิดขึ้น ระหว่างการปฏิบัติงาน จิตอาสาขององค์การนิสิต หลายคู่ประสบผลสำเร็จได้ครองเรือน. แต่หลายคู่ต้องร้างลา เมื่อกาลเวลาผันเปลี่ยน

หนังสือทำมือเล่มหนึ่งถูกหยิบยื่นให้ .. พร้อม ๆ กับคำกล่าวว่า “...ค่อย ๆ อ่านนะ จะได้เข้าใจ และรู้จักกันมากขึ้น...” คือจุดเริ่มต้นของความทรงจำ

จากการอ่านหนังสือทำมือสู่การสานสัมพันธ์อันลึกซึ้ง take care ดูแลกันตลอดการเป็นนิสิต พักเที่ยง ต้องไป canteen เพื่อรับประทานอาหารด้วยกัน ร้านเดิมๆที่เราสั่งอาหารตามสั่งมารับประทาน ความน่ารักของเรา แม่ค้าเริ่มกล่าวแซว “อยู่ modelingไหนกันจ๊ะ คู่นี้”. ความเขินอายเราสองก็พอมี ได้แต่เพียงสบตา แล้วยิ้ม และหัวเราะไปด้วยกัน รับประทานอาหารกลางวันเสร็จ แยกย้ายต่างไปเรียน ด้วยอยู่กันคนละคณะ. รอเพียงพลบค่ำเพื่อเวลาจะนำพาเรามาพบกันอีกครั้ง

ช่วงเย็น ก่อนกลับหอพัก คณะกรรมการองค์การนิสิต มีนัดกันทุกค่ำ ที่องค์การฯ ต่างคนต่างซื้อ ขนม ผลไม้ น้ำดื่ม มารวมๆ กัน นั่งคุยวางแผนกิจการนิสิตกันเรื่อยเปื่อย. คู่จิ้นบ้างคู่ก็มาติวหนังสือ ไม่ได้สนใจแผนการที่นายกองค์การนิสิตได้นำเสนอแต่อย่างใด

วันแล้ววันเล่า จนกระทั้งเวลาผ่านไปเมื่อสำเร็จการศึกษา มีทะเลาะมีเง้างอลตามเรื่อง บ้างเปิดเผย บ้างก็เก็บไว้ในใจ...

บางคู่แต่งงานอยู่กิน. บ้างคู่แต่งงานแล้วร้างลา. แต่บางคู่จากกันไปโดยไม่เอ๋ยคำลา. บ้างก็หลบหน้าเพียงเพราะจะเรียนจบแล้ว และรักนั้นคงเป็นไปไม่ได้ มีเพียงความทรงจำที่รู้กันเพียงสองคน

“เขม .. ฝึกเขียน นิยายเหมือนเราสิ เขียนจากประสบการณ์ก็ได้. แล้ว เขม จะรู้ว่ามันสนุกและมีค่านะ”

“เราไม่ได้เรียนมนุษยศาสตร์ เหมือนเธอนะ เขียนได้แต่สำนวนภาษาอาจจะไม่สวย”

“ลองดูเถอะ. ไม่เสียหายหรอก เขม ...”

“...ได้ เราจะฝึกเขียนดู นะ บลู...”

วันนี้เธออยู่ไหนแล้ว ท้องฟ้าสีบลู. ล่าสุด ข่าวสารจากกลุ่มเพื่อน องค์การนิสิต บอกว่า เธอไปเรียนต่อต่างประเทศ และติดต่อไม่ได้ถึงปัจจุบัน

ความทรงจำของนิสิตในรั้วมหาวิทยาลัย อาจเป็นเสี้ยวหนึ่งของชีวิต ที่สร้างความประทับใจ และมีไว้ให้ย้อนระลึกถึง ..ความสร้างสรรค์ แนวคิด บรรเจิด ณ ช่วงเวลาแห่งการเรียนในรั้วมหาวิทยาลัยนี้เอง

.... มองฟ้าสีบลู....และยังเฝ้ารอเธออยู่เสมอ

ความคิดเห็น

  1. น่าอ่าน..ติดตามค่ะ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ขอบคุณครับ ตอนต่อไป/เรื่องต่อไป จะเขียนขึ้นเรื่อยๆ ครับ

      ลบ

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

เสียงก้องกังวาน ในห้วงฤทัย

"ปาฏิหาริย์ไม่มีจริง"

เส้นทางสายผ้าเหลือง