สิ่งที่ไม่ไขว่คว้าใน รั้วมหา'ลัย

เบื่องาน 5555 ตั้งแต่เรียน ป.ตรี ที่ ม.อ่างแก้ว ตีนดอยสุเทพ พอจบก็ต่อโทที่นั้นอีกใบ มี Puppy love บ้าง แต่มุ่งมั่นให้ได้กระดาษ 1 ใบ ที่ไม่ได้ใช้อะไร เก็บไว้ในตู้ บ้างก็แป๊ะฝาบ้าน. สุดท้าย ไม่ได้ใครสักคน 55555 เซ็ง ๆ ไม่รู้จะทำห่า อะไร ไปเป็นลูกพระพิรุณบ้างดีกว่า เป็นลูกช้างมาก็นานโข เขาว่า ที่นั่น SOTUS แรง อยู่ที่นี่ ซะ 7 ปี เต็ม “ครูเบื่อเธอละ จบ ๆ ไปเถอะ รำคาญ” เอาเป็นว่าได้ ปริญญาเอก แบบงง ๆ มาอีกหนึ่งใบ จบออกมาไม่มีอะไรตื่นเต้น...
งานหลัก เขาก็ให้แค่ลงนามในหนังสือ งานอดิเรก ก็แบกหมอนหละ เล่นเกม ส่องเฟส บ้าง งานจร ก็พอมี ตามคำสั่งเจ้ากรมฯ นายใหญ่แห่งสังกัด ให้ไปช่วยงานที่บางกอกบ้างเป็นครั้งคราว ส่วนใหญ่ก็จะประจำอยู่สำนักตัวเอง เป็น เจ้าสำนักรุ่นเยาว์ มีไพร่พล ดูแล ประมาณ 600 ชีวิต เจ้ากรรม นี่หน้าที่กูสินะ.

(...ทำ ๆ ไป อย่าบ่น...) วัน ๆ เฮฮา ไปตามเรื่องไม่เหงา หากไม่มี covid มารังควาน ตอนนี้ แม่งสุดเซ็ง เพราะสำนักที่ตนเองได้รับมอบอำนาจให้ดูแลต้องปิดตัวชั่วคราวจนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น (...กูก็เซ็งสิว๊ะ ไอ้ห่า...) เลยจำทนต้องเป็น ฆาตกรชั่วคราวในการทำหน้าที่ "ฆ่าเวลา" ไปวัน ๆ หากวันนี้ คือ วันวาน กูจะไม่ตั้งใจเรียน กูจะตั้งใจหาคู่ ตั้งแต่ย่างเข้ารั้วสีม่วง แห่งมหานครล้านนา หากพลาดตรงนั้น จะคว้าหมู่เลือดสีเขียวมาเป็นคู่ชีวิตเสียให้ได้ สรุป อยู่รั้วม่วง 7 กว่าปี. ไม่ได้ เลือดม่วง มาเป็นคู่ครอง พอมาอยู่รั้วเขียว ก็ไม่ได้เลือดเขียวมาเคียงข้างกายเช่นกัน. (...แล้วกูไปเรียนทำห่า อะไรเนี่ย...) หากวันนี้ มีใครคนนั้นเดินเข้ามา เตียงนอน คงไม่มีเพียงหมอนและผ้าห่ม คงมีไออุ่นได้สัมผัสเนื้อหนังให้ชุ่มชีวา ทุกทิวาราตรีกาล

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

เสียงก้องกังวาน ในห้วงฤทัย

"ปาฏิหาริย์ไม่มีจริง"

เส้นทางสายผ้าเหลือง